ปราสาทญี่ปุ่นไม่ใช่เพียงแค่สัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรม แต่ยังเป็นหน้าต่างสำคัญสู่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และจิตวิญญาณของยุคซามูไร ปราสาทหลายแห่งในญี่ปุ่นถูกรักษาไว้เป็นอย่างดีหรือบูรณะให้ใกล้เคียงกับสภาพเดิมที่สุด เพื่อสะท้อนความรุ่งเรืองในอดีต วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 ปราสาทญี่ปุ่นที่ยังคงความงดงามตามประวัติศาสตร์ ซึ่งไม่ควรพลาดในการเดินทางของคุณ
1. ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
ที่ตั้ง: เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ
ขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดย UNESCO: ปี ค.ศ. 1993
ปราสาทฮิเมจิ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ปราสาทนกกระสาขาว” (White Heron Castle) เพราะมีโครงสร้างสีขาวบริสุทธิ์ที่โดดเด่น สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 และรอดพ้นจากสงคราม แผ่นดินไหว และเพลิงไหม้มาได้ ปราสาทแห่งนี้ถือเป็นแบบอย่างของสถาปัตยกรรมปราสาทญี่ปุ่นในยุคเอโดะ และยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด
จุดเด่น:
- โครงสร้างไม้ที่แข็งแรงที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
- มีระบบป้องกันหลายชั้นซับซ้อนแบบยุทธศาสตร์
- วิวเมืองฮิเมจิจากชั้นบนของปราสาท
เว็บไซต์: https://www.himejicastle.jp
2. ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle)
ที่ตั้ง: จังหวัดนากาโนะ
อีกหนึ่งปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยตัวอาคารสีดำและสะพานสีแดงที่ตัดกันอย่างงดงามจนได้รับสมญานามว่า “ปราสาทอีกา” (Crow Castle) เพราะสีดำเข้มของโครงสร้าง
จุดเด่น:
- เป็นปราสาทไม้ดั้งเดิมที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
- ตั้งอยู่บนที่ราบ ไม่มีเนินเขาหรือภูเขาล้อมรอบ
- บรรยากาศสวยงามโดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลิที่มีซากุระล้อมรอบ
เว็บไซต์: https://www.city.matsumoto.nagano.jp
3. ปราสาทอินุยามะ (Inuyama Castle)
ที่ตั้ง: จังหวัดไอจิ
ปราสาทอินุยามะเป็นหนึ่งในไม่กี่ปราสาทดั้งเดิมที่มีโครงสร้างหลักจากยุคก่อนเอโดะ และยังคงอยู่ในสภาพเดิมจนถึงปัจจุบัน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติ และสามารถชมวิวแม่น้ำคิโซะได้จากชั้นบน
จุดเด่น:
- สร้างในปี ค.ศ. 1537
- เป็น 1 ใน 12 ปราสาทไม้ดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ยังหลงเหลืออยู่
- อยู่ใกล้เมืองนาโกย่า เดินทางสะดวก
เว็บไซต์: https://inuyama-castle.jp
4. ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle)
ที่ตั้ง: จังหวัดชิงะ ใกล้ทะเลสาบบิวะ
ปราสาทแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งปราสาทไม้ดั้งเดิมที่ยังคงสภาพสมบูรณ์เช่นกัน โดยไม่เคยถูกทำลายในการสู้รบหรือภัยพิบัติ และมีองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก
จุดเด่น:
- สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1622
- โดดเด่นเรื่องวิวทะเลสาบบิวะ
- ภายในมีพิพิธภัณฑ์ของตระกูลอิอิ ผู้ปกครองในอดีต
เว็บไซต์: https://www.hikoneshi.com
5. ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle)
ที่ตั้ง: จังหวัดชิมาเนะ
หนึ่งในไม่กี่ปราสาทที่ยังคงหอหลักดั้งเดิม และมีบรรยากาศสงบงามใกล้ทะเลสาบชินจิ ปราสาทนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1611 และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผสมผสานความงามทางธรรมชาติกับประวัติศาสตร์ได้อย่างลงตัว
จุดเด่น:
- หอคอยไม้ดั้งเดิมที่สามารถขึ้นไปชมวิวเมือง
- มีการจัดงานเทศกาลดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ
- เดินเล่นรอบคูเมืองและล่องเรือชมทิวทัศน์ได้
เว็บไซต์: https://www.matsue-castle.jp
การเที่ยวชมปราสาทญี่ปุ่นไม่ใช่แค่การชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่เท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและยุทธศาสตร์การปกครองในยุคโบราณของญี่ปุ่นอีกด้วย ใครที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และความงามแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ไม่ควรพลาดการไปเยือนปราสาททั้ง 5 แห่งนี้
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. ปราสาทในญี่ปุ่นสามารถเข้าชมด้านในได้หรือไม่?
ได้ ส่วนใหญ่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยมีค่าเข้าชมเล็กน้อย
2. เดินทางไปปราสาทฮิเมจิอย่างไร?
จากโอซาก้าหรือต่างจังหวัด สามารถนั่ง JR Sanyo Line ไปยังสถานี Himeji ได้สะดวก
3. ปราสาทมัตสึโมโตะเปิดทุกวันหรือไม่?
เปิดทุกวัน ยกเว้นช่วงวันหยุดสิ้นปี กรุณาตรวจสอบเว็บไซต์ล่วงหน้า
4. มีไกด์หรือบริการทัวร์ที่ปราสาทหรือไม่?
หลายแห่งมีไกด์ภาษาอังกฤษหรือออดิโอไกด์ให้บริการ
5. ควรไปชมปราสาทช่วงไหนของปี?
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม–เมษายน) และฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม–พฤศจิกายน) เหมาะที่สุด
6. มีปราสาทที่ยังเป็นของเอกชนหรือไม่?
เช่น ปราสาทอินุยามะ เคยเป็นกรรมสิทธิ์ของตระกูลนารุเสะมาก่อนที่จะกลายเป็นทรัพย์สินของมูลนิธิ
7. ปราสาทญี่ปุ่นมีประวัติการใช้ในสงครามจริงไหม?
ใช่ หลายแห่งเคยใช้เป็นฐานที่มั่นหรือศูนย์บัญชาการในยุคสงคราม
8. ปราสาทเหล่านี้เข้าร่วมเป็นมรดกโลกทั้งหมดหรือไม่?
เฉพาะปราสาทฮิเมจิที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
9. มีค่าธรรมเนียมเข้าชมหรือไม่?
มี ส่วนใหญ่ราว 300–1,000 เยน ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่
10. ถ่ายภาพได้ไหมภายในปราสาท?
ส่วนมากสามารถถ่ายภาพได้ในบางพื้นที่ ยกเว้นห้องจัดแสดงหรือจุดหวงห้าม
อยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบเจาะลึก? ดูโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น จาก Thaifly ที่รวมเส้นทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความสวยงามของแต่ละฤดูกาล คลิกเลย!